
Sameer Maskey นำเสนอบทความ How AI Is Primed to Disrupt HR And Recruiting ผ่าน forbes.com
โดยได้นำเสนอถึง ความสำคัญของพนักงานต่อการดำเนินธูรกิจ ไม่ว่าธุรกิจ เล็กหรือใหญ่ ท้องถิ่นหรือระดับโลก กำลังเริ่มเห็นคุณค่าความเป็นจริงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี 2564 เพียงปีเดียว ที่ผู้คนราว 47 ล้านคนลาออกจากงาน ทำให้เกิดวลี “การลาออกครั้งใหญ่”
การลาออกของพนักงาน ประกอบกับการหยุดชะงักทางดิจิทัลของพนักงาน ทำให้องค์กรหันมาใช้เทคโนโลยีและต้องการลงทุนใน HR technologies มากขึ้น จากข้อมูลของ Fortune Business Insights ตลาด HR technologies ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจาก 24.04 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 เป็น 35.68 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028 และบริษัทต่างๆ มีแนวโน้มที่จะจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนใน AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทางธุรกิจและลดต้นทุน
Sameer Maskey ได้สรุปวิธีที่ AI จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ขยายวงจรชีวิตทรัพยากรบุคคลทั้งหมดของพวกเขา ตั้งแต่การร่างแผนที่ในการสรรหา Talent ไปจนถึงการระบุวิธีที่ดีที่สุดในการดึงดูดและรักษา Talent มีส่วนร่วมกับองค์กรอย่างมีความสุข
#1 AI ช่วยในการสรรหาบุคลากร
AI สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ HR และกระบวนการสรรหาบุคลากรได้ทันทีโดยการคาดการณ์ความต้องการบุคลากรภายในบริษัทหรือแผนกเฉพาะ AI ด้วยข้อมูลเชิงลึก สามารถนำมาใช้เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานว่างและความต้องการของทีม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยทีม HR จัดลำดับความสำคัญของความต้องการจ้างงานได้อย่างมาก
AI ยังสามารถช่วยจัดหาผู้สมัครที่มีศักยภาพผ่านโฆษณาแบบกำหนดเองที่สร้างโดย AI ซึ่งช่วยกำหนดเป้าหมายกลุ่มผู้สมัครที่เหมาะสมจากทั่วทั้งเว็บ นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพในระดับใหม่ให้กับกระบวนการค้นหาแล้ว ระบบ AI ยังทำหน้าที่ติดตามผู้สมัครได้ดีขึ้นมาก ซึ่งแตกต่างจากกระบวนการแบบแมนนวลแบบดั้งเดิม ทั้งนี้เนื่องจากระบบ AI สามารถฝึกฝนด้วยชุดข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อทำความเข้าใจลักษณะผู้สมัครในอุดมคติ และสามารถระบุผู้สมัครที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วจากแพลตฟอร์มมากมาย เช่น GitHub หรือ Quora
นอกจากนั้น AI ยังช่วยเพิ่มเติมในกระบวนการจ้างงานผ่านเครื่องมือติดตามแอปพลิเคชันอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดย AI และกลับมาให้คะแนนและจัดอันดับต่อ เทคโนโลยีนี้ยังช่วยลดเวลาของผู้สรรหาในการทบทวนแง่มุมที่ไม่ใช่ด้านเทคนิคของผู้สมัครได้อย่างมาก เช่น ทักษะการสื่อสาร ผ่านการใช้ระบบการสนทนาเสมือนจริงหรือผู้สรรหาเสมือน ในบางกรณี AI ยังสามารถช่วยในการประเมินทักษะทางเทคนิคด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อให้คะแนนการทดสอบการเขียนโค้ดบางประเภทหรือจำลองสภาพแวดล้อมการทำงานในชีวิตจริงเพื่อให้จ้างผู้สมัครจากระยะไกลได้
#2 AI ช่วยปรับปรุงการมีส่วนร่วมของพนักงาน
จากความไม่พอใจในเงินเดือนและความเหนื่อยหน่ายไปจนถึงการขาดความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน พนักงานอาจลาออกจากบริษัทด้วยเหตุผลหลายประการ เนื่องจากธุรกิจมักจะใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมากในการฝึกอบรมและช่วยให้พนักงานเติบโต พวกเขาจึงควรใช้เวลาในการประเมินสาเหตุที่พนักงานลาออก AI สามารถเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการช่วยให้นายจ้างเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้พนักงานลาออก
ทุกวันนี้ มีเครื่องมือสร้างความผูกพันของพนักงานที่ใช้ AI จำนวนมากอยู่แล้ว ซึ่งรวบรวมข้อมูลและระบุแนวโน้มของความไม่พึงพอใจหรือความต้องการที่แสดงออกโดยพนักงาน ตัวอย่างเช่น บริษัทต่างๆ กำลังใช้แชทบอทเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับการจ้างงานใหม่ ในทำนองเดียวกัน เครื่องมือประเมินแบบสำรวจภายในที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถช่วยทีม HR ในการวิเคราะห์ความรู้สึกและปรับใช้ความคิดริเริ่มขององค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ขวัญกำลังใจของพนักงานและสิ่งที่พนักงานในปัจจุบันคำนึงถึงความสำคัญ เช่น ความหลากหลายและความยั่งยืน ทีม HR ยังใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อทำความเข้าใจความต้องการการฝึกอบรมในแต่ละแผนก และสร้างโอกาสในการเพิ่มพูนทักษะภายในองค์กรได้ด้วย
โดยสรุป AI สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยต่อสู้กับความเหนื่อยหน่ายหรือเพิ่มเวลาให้กับพนักงานในการทำงานที่สร้างสรรค์หรือท้าทายทางปัญญาผ่านระบบอัตโนมัติของงานซ้ำซาก สิ่งนี้ใช้โดยตรงกับวิธีที่ทีม HR ระบุวิธีเพิ่มประสิทธิภาพทีมที่มีอยู่และปรับใช้ฟังก์ชัน AI สำหรับทีมต่างๆ เช่น ฝ่ายบริการลูกค้า การเงิน และกฎหมาย
ขับเคลื่อนอนาคตของ HR ด้วย AI
เห็นได้ชัดว่า AI มีไว้เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมทรัพยากรบุคคลอย่างที่เราทราบกันดี ในความเป็นจริง เมื่อใช้ AI ทีม HR พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็น ” talent insights engine” ขององค์กร
อนาคตของ HR ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะประสบความสำเร็จได้ผ่านการผสานรวมระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรเท่านั้น สิ่งนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการกำจัดปัญหาที่นำโดยเครื่องจักรและความคลาดเคลื่อนในขณะที่ยังคงรักษา “คน” ในทรัพยากรมนุษย์ไว้เหมือนเดิม ตัวอย่างเช่น หากบริษัทใช้ระบบ AI ที่ได้รับการฝึกฝนบนชุดข้อมูลที่เป็นตัวแทนของเชื้อชาติหรือกลุ่มประชากรบางกลุ่มเท่านั้น ผลการค้นหาจะไม่มีทางให้กลุ่มผู้สมัครที่หลากหลายที่พวกเขาอาจหวังไว้ ซึ่งส่งผลให้เกิดอคติ
อย่างไรก็ตาม หากมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลที่ผ่านการฝึกอบรมมาคอยจับตาดูประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด องค์กรต่างๆ ก็วางใจได้ว่าความเสี่ยงที่เกิดจาก AI จะยังคงอยู่ในภาวะปกติ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การให้ AI มีเวลาเพียงพอสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน HR ที่ผ่านการฝึกอบรมเหล่านี้จะส่งผลให้พวกเขามุ่งความสนใจไปที่การสร้างทีมที่ไม่เพียงมีประสิทธิผลเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นต่อองค์กรของตนด้วย
#AIforHR
#PMAT #HRTech
#HumanResource
#BiteSizedLearningbyPMAT
_____________
#ThailandHRTech2023
Everything Everywhere Augmented
14-15 June 2023 I Royal Paragon Hall
ข้อมูลเพิ่มเติม https://hrtech.pmat.or.th
ลงทะเบียนเข้างานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย hrtech2023