
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าการได้หยุดมากกว่า 2 วัน เป็นสิ่งที่คุณเฝ้ารอ การทำงานที่เรียกว่า 4 Day Working Week หรือ การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์อาจเป็นจริงในไม่ช้า ในอีกซีกโลกหนึ่ง TUC (Trade Union Congress) เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยให้ผู้คนทำงานน้อยลงโดยได้รับค่าจ้างเท่าเดิม
เราจะมาทำความรู้จักกับแนวคิดการทำงานแบบนี้ผ่านบทความ The Pros and Cons of a 4 Day Working Week ที่เผยแพร่ผ่าน changerecruitmentgroup.com
หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าจะเช่นนี้เป็นไปได้อย่างไร
ทำไมเจ้าของธุรกิจถึงปล่อยให้พนักงานทำงานเพียง 4 วันต่อสัปดาห์?
บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบหรือไม่?
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ คนทำงานน้อยลง ก็คือ “การพัฒนาด้านเทคโนโลยี” ที่สามารถทำให้คนทำงานสำเร็จในปริมาณที่เท่าเดิมโดยใช้เวลาน้อยลง และยังมั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าและบริการที่ดี
เทคโนโลยี AI จะพลิกโฉมทุกด้านของทุกอุตสาหกรรมในทุกประเทศอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงวิธีและเวลาที่เราทำงาน ในอนาคตอันใกล้ เราน่าจะเห็นตารางการทำงานระยะไกลและยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ในความเป็นจริง TUC คิดว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์อาจกลายเป็นความจริงได้ภายในศตวรรษนี้ หากธุรกิจต่างๆ ถูกบังคับให้ต้องแบ่งปันประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่กับพนักงานของตน
การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุด อย่างไรก็ตาม บางบริษัทกำลังทดลองใช้แนวคิดนี้โดยให้ผลลัพธ์ที่คาดหวังสำหรับทั้งพนักงานและนายจ้างอย่างไรก็ตาม ได้มีการวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียบางประการที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์
เพิ่มผลผลิต
การศึกษาพบว่า พนักงานที่ทำงานหนักเกินไปมีประสิทธิผลน้อยกว่าพนักงานที่ทำงานโดยเฉลี่ยหรือสัปดาห์ทำงานปกติ Perpetual Guardian บริษัทในนิวซีแลนด์ ได้ทำการศึกษาทดลองเกี่ยวกับการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ พนักงานไม่เพียงรักษาระดับประสิทธิภาพการผลิตเท่าเดิม แต่พวกเขายังแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงในด้านความพึงพอใจในงาน การทำงานเป็นทีม ความสมดุลระหว่างงาน/ชีวิต และความภักดีต่อบริษัท พนักงานมีความเครียดน้อยลงโดยลดลง 45% เป็น 38% ผลลัพธ์จากการศึกษานี้ค่อนข้างไม่น่าแปลกใจ เนื่องจากบางประเทศที่มีประสิทธิผลมากที่สุดในโลก เช่น นอร์เวย์ เดนมาร์ก เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ โดยเฉลี่ยแล้วทำงานประมาณ 27 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ความเท่าเทียมกันในที่ทำงาน
การวิจัยเกี่ยวกับ Gender Pay Gap แสดงให้เห็นว่าคนอังกฤษประมาณ 2 ล้านคนไม่ได้ทำงานเนื่องจากความรับผิดชอบในการดูแลลูก และ 89% ของคนเหล่านี้เป็นผู้หญิง การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์จะส่งเสริมให้มีสถานที่ทำงานที่เท่าเทียมกัน เนื่องจากพนักงานจะสามารถใช้เวลากับครอบครัวได้มากขึ้นและดูแลเอาใจใส่และทุ่มเทในการทำงานได้ดีขึ้น
การมีส่วนร่วมของพนักงานที่ดีขึ้น
พนักงานมีโอกาสน้อยที่จะเครียดหรือลาป่วย เนื่องจากมีเวลาพักผ่อนและพักฟื้นมากเพียงพอ เป็นผลให้พวกเขากลับไปทำงานด้วยความรู้สึกพร้อมที่จะรับความท้าทายใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2017 สวีเดนได้ทำการศึกษาทดลองในสัปดาห์การทำงานที่สั้นลง พยาบาลที่บ้านพักคนชราทำงานเพียง 6 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ผลลัพธ์ในเชิงบวกส่วนใหญ่คือพยาบาลบันทึกชั่วโมงป่วยน้อยลง รายงานสุขภาพและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น และมีส่วนร่วมมากขึ้นเนื่องจากพวกเขาจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้น 85% สำหรับผู้ป่วยในความดูแลของตน
Carbon Footprint ลดลง
โดยทั่วไป ประเทศที่มีชั่วโมงการทำงานสั้นกว่าจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า การทำให้สัปดาห์ทำงานสั้นลงหมายความว่าพนักงานไม่จำเป็นต้องเดินทางมากนัก และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ใช้งานเพียงสี่วันต่อสัปดาห์ รัฐยูทาห์ของสหรัฐฯ ลดเวลาทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์จาก 5 เหลือ 4 ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากกว่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.36 ล้านปอนด์) และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างน้อย 6,000 เมตริกตันจากการปิดอาคารสำนักงานใหญ่ในวันศุกร์ หากรวมการเดินทางของพนักงานด้วย ยูทาห์ประเมินว่าสามารถลด CO2 ได้ 12,000 เมตริกตัน เทียบเท่ากับการนำรถออกจากถนน 2,300 คันเป็นเวลาหนึ่งปี เพียงแค่ทำงานน้อยลงหนึ่งวันต่อสัปดาห์!
มาดูกันที่ข้อเสีย ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์
แม้ว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อเสียอยู่เล็กน้อย การศึกษาบางส่วนที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ เช่น การศึกษาเกี่ยวกับพยาบาลชาวสวีเดน ท้ายที่สุดแล้วระบุว่าโครงการนี้ไม่คุ้มทุน การดำเนินการให้ทำงานสี่วันต่อสัปดาห์อาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากต้องการการสนับสนุน เทคโนโลยี และวัฒนธรรมสถานที่ทำงานที่เหมาะสม การเปลี่ยนแปลงใหม่จะพบกับความท้าทายและข้อเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความพึงพอใจของลูกค้า
การศึกษาในยูทาห์ซึ่งเห็นผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมรวมถึงผลประโยชน์ของพนักงานและนายจ้าง จริง ๆ แล้วปิดลงเนื่องจากความพึงพอใจของผู้รับบริการที่ไม่ดี เพราะติดต่อราชการในวันศุกร์ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยี เช่น แชทบอทและเว็บไซต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจของลูกค้าได้ เนื่องจากจะช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกอื่นในการสนับสนุน แทนที่จะพึ่งพาพนักงานที่ทำงานในสำนักงาน
ปัจจุบันการผลักดันให้ ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ยังคงอยู่ระหว่างการทดลอง เพื่อหาความเป็นไปได้ และ หลายคนเชื่อว่าเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI จะมาแทนที่ความสามารถของพนักงานที่เป็นมนุษย์ จากนั้นเราจะต้องทำการตัดสินใจที่สำคัญเกี่ยวกับอนาคตของการทำงานและวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องและส่งเสริมสวัสดิภาพของพนักงาน การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์เป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้ เนื่องจากเทคโนโลยีจะทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ตามปกติ ในขณะที่มนุษย์ยังสามารถมีอาชีพที่มีความหมายได้ด้วยสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตที่ดีขึ้น
#4dayweek #4DayWorkingWeek
#PMAT #HR #AI
#HumanResource
________________________
#ThailandHRTech2023
Everything Everywhere Augmented
14-15 June 2023 I Royal Paragon Hall
ข้อมูลเพิ่มเติม https://hrtech.pmat.or.th
ลงทะเบียนเข้างานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย hrtech2023